นิทานเรื่องนี้ผมให้ชื่อว่า “ต้นข้าว”
|นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานที่ผมได้จากหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งมานานมากแล้ว (ผมคงไม่ได้อ้างอิงไว้ ณ ที่นี้จำไม่ได้จริงๆ) เป็นนิทานที่คิดว่าที่ให้แง่คิดหรือมุมมองในความรักได้ดีผมจึงนำมาถ่ายทอดไว้เพื่อที่จพเป็นความรู้ให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา นิทานเรื่องนี้ผมให้ชื่อว่า “ต้นข้าว”
ชายหนุ่มรู้สึกกังวลและเป็นห่วงถึงชีวิตที่ขาดคู่เขากำลังมองหาว่าเขาขาดอะไรไปทำไมชีวิตของเขาถึงยังไม่มีใครเคียงข้าง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจปรึกษาพ่อของเขา “พ่อครับทำไมผมยังไม่เจอคนที่ใช่สำหรับผมซักที ผมขาดอะไรไป” พ่อของชายหนุ่มก็กล่าวว่า “ตามพ่อมาไอลูกชาย” พ่อของชายหนุ่มพาลูกชายมายังแปลงนาที่กว้างใหญ่ แล้วบอกกับลูกชายที่รักยิ่งของเขาว่า “เอ้าไอลูกชาย เดินไปสุดแปลงนา แล้วเลือกต้นข้าวที่ถูกใจที่สุดให้พ่อซักต้นซิ แต่มีข้อแม้นะว่าหากเอ็งเดินผ่านไปแล้วห้ามหันกลับมาหยิบต้นเดิม และ เมื่อเอ็งเลือกต้นไหนแล้วก็ห้ามทิ้งเลือกต้นใหม่” ชายหนุ่มตอบว่า “ครับพ่อ” และก็ทำตามที่พ่อสั่งทันทีระหว่างเดินก็หยุดดูต้นนู้นต้นนี้จนถึงสุดแปลงนาและก็เดินกลับมาด้วยมือที่ว่างปล่าว พ่อเห็นเช่นนั้นแล้วถามลูกชายว่า “เป็นอะไรหล่ะไอ้ลูกรัก ไม่มีต้นข้าวต้นไหนที่เอ็งถูกใจที่สุดเลยหรือไง !! ” ชายหนุ่มตอบว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับพ่อ ผมเจอมันแล้ว ผมเจอต้นข้าวหลายต้นที่สวยงาม หยุดดูหยุดคิดอยู่นานแต่ผมก็ยังคงคิดว่ามันไม่ใช่ และเมื่อผมเจอต้นที่คิดว่าต้นนี้แหละใช่แล้ว แต่ผมก็ยังไม่เลือกเพราะผมคิดว่าแปลงนาที่กว้างใหญ่นี้ต้องมีต้นที่สวยยิ่งกว่าจึงเดินผ่านมันไป แต่ผมก้เดินจนสุดแปลงนากลับพบว่าผมเดินผ่านต้นข้าวที่สวยงามที่สุดไปแล้ว” พ่อของชายหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มและบอกลูกชายว่า “นั้นแหละไอ้ลูกรักการเลือกต้นข้าวก็เหมือนที่เอ็งกำลังหาคนรัก เอ็งอาจจะหยุดมองอยู่นานเพื่อศึกษาและพบว่ามันไม่ใช่ หรือ เอ็งก็อาจจะเดินผ่านโอกาศที่ดีที่สุดไป แต่มันอยู่ที่เอ็งเป็นคนเลือกแล้วหละว่าต้นข้าวต้นไหนหละที่เหมาะกับเอ็ง บางที่เอ็งอาจจะเดินผ่านมาและมานั้งเสียดายเหมือนต้นข้าวต้นนั้นก็ได้ (~^ v ^)~ จบ
นิทานเรื่องนี้ให้แง่คิดมากมายตามแต่มุมมองของผู้อ่าน แต่สำหรับผมแล้วการที่ไม่มี “ต้นข้าว” ติดมือกลับมาเป็นทางที่แย่ที่สุดเพราะต่อให้ผมเลือกต้นข้าวที่ไม่สวยที่สุดติดมือกลับมาผมก็ยังคงมีต้นข้าวต้นนั้นเดินทางมาด้วยกันตลอดทาง และ ผมคงไม่ต้องฝืนหยิบต้นข้าวในเวลาที่ใกล้สุดทาง